Home ข่าวบันเทิง ยายชา เปิดใจป่วยมะเร็งปอด เมียทำใจ น้ำตาซึมเผยถึง เท่ง ไม่เจอสิบปี ลั่นกูรักมึง

ยายชา เปิดใจป่วยมะเร็งปอด เมียทำใจ น้ำตาซึมเผยถึง เท่ง ไม่เจอสิบปี ลั่นกูรักมึง

39

รับสั่งเสียถ้าไม่อยู่แล้วอย่าปล่อยให้ถึง3วัน ยายชา เถิดเทิง เปิดใจป่วยมะเร็งปอด ภรรยาทำใจ น้ำตาซึม ซึ้งไม่เจอ เท่ง สิบกว่าปี ลั่นกูรักมึง เป็นไปได้กูอยากให้มึงมาหากู

ยายชา เถิดเทิง ที่วันนี้ควงภรรยา คุณกุ้งนาง เปิดใจครั้งแรก หลังป่วยหนักเป็นมะเร็งปอด ถึงขั้นสั่งเสียครอบครัว หากไม่อยู่แล้วอย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน พร้อมเผยที่มาโรคมะเร็งปอดและไอหนักจนเป็นเลือด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

มีข่าวใหญ่ว่าหามยายชาส่งโรงพยาบาลเมื่อ 31 มกราคม แล้วไปตรวจพบโรคมะเร็งในปอด?
ยายชา : ไม่ได้อยากได้มันมาเอง

พอเรารู้ว่าเป็นมะเร็ง รู้สึกยังไง?
ยายชา : ในความรู้สึกเรา เราเป็นบุคคลธรรมดา ไม่อยากได้ แต่เมื่อมันมาก็ปล่อยมัน ช่างแม่ง

กลัวไหม?
ยายชา : ไม่กลัว

คุณกุ้งกลัวไหม?
กุ้งนาง : ไม่กลัว เราจะสู้ไปด้วยกัน

มันอยู่ในระยะที่เท่าไหร่?
กุ้งนาง : ตอนนี้คุณหมอยังวินิจฉัยยังไม่ได้ รอโรงพยาบาลนัดตรวจอีกที

ย้อนกลับไปช่วง 31 มกราคม วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
กุ้งนาง : วันนั้นไอหนักมากทั้งวันและทั้งคืนก็เลยไม่ไหว ตี3 เรียกพี่ชายไปส่งที่โรงพยาบาล ไปถึงหมอก็ให้แอดมิต 1 คืน อีกวันนัดทำ CT Scan แล้วหมอก็นัดมาฟังผลอีก 1 อาทิตย์

แต่เรารอไม่ไหว ไอเป็นเลือด 2 วันประมาณเป็กนึงได้ เลยให้พี่ขายไปส่งโรงพยาบาลอีกรอบ แล้วพอดีผล CT Scan ออกก่อน คุณหมอบอกว่าแฟนคุณเป็นมะเร็งปอด ในชั่วโมงนั้นเราก็เข่าอ่อน รู้สึกทรุดนิดหน่อย แต่ต้องตั้งสติ เพราะว่าเราอ่อนแอไม่ได้

แสดงว่าก่อนหน้านี้เราไม่รู้เลย?
กุ้งนาง : เราไม่รู้เลยค่ะ เพราะเขาเลิกบุหรี่มาได้เกือบ 3 เดือน

ในความเป็นจริงยายชามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว?
กุ้งนาง : ใช่ค่ะ มีไขมัน ความดันสูง แล้วก็น้ำท่วมปอดค่ะที่เป็นมาประมาณปีนึงแล้ว

คุณหมอได้แจ้งไหมว่าต้องรักษายังไง?
กุ้งนาง : ยังค่ะ เพราะตอนนี้คุณหมอทำเรื่องส่งตัว ย้ายโรงพยาบาลอยู่ ให้โรงพยาบาลนครปฐมอีกทีว่าเป็นระยะไหน ขั้นไหนแล้ว วันที่ 16 นี้ทราบผล

ยายเอากำลังใจมาจากไหน?
ยายชา : 1.คนข้างๆ 2.รายการที่เรากำลังทำอยู่ ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้เราทำก็ต้องทำ จนกว่าชีวิตเราทั้งสองจะไม่มีแล้ว

ตอนเราจะไปตรวจ เราเริ่มรู้สึกแล้ว?
ยายชา : ใช่ มันมีอะไรแปลกๆ ในร่างกาย แล้วกูเป็นอะไรเนี่ย ก็เลยบอกแฟนว่าพาพ่อไปโรงพยาบาลหน่อย ไปให้เขาเช็กจะดีกว่าว่าเราเป็นอะไร

กุ้งนาง : เขาไอผิดปกติ 2 วัน
ยายชา : เพราะเวลาไอมีเลือดออกมาด้วย

ตอนนั้นสภาวะร่างกายเป็นยังไง เราทำงานได้ไหม เราต้องนอนอย่างเดียวหรือเปล่า หรือว่าเรายังใช้ชีวิตได้อยู่?
ยายชา : 1.ทำงานไม่ได้ 2.นอนอย่างเดียวก็ไม่ได้ สภาวะแวดล้อมในร่างกายเรา สิ่งที่เราเป็นอยู่ ถามว่าในชีวิตจะอยู่ได้ไหม ถ้าในกระเพาะอาหารเราไม่มีอะไรเลย

กุ้งนาง : เราก็ไม่สามารถสู้โรคได้
ยายชา : เราต้องมาเปลี่ยน ต้องสู้โรค สู้กับมันให้ได้ อยู่กับมันให้ได้

ตอนที่คุณหมอบอก เรารอนานไหมในการบอกยายชา?
กุ้งนาง : ไม่นานนะคะ เพราะยายเขาเคยสั่งไว้ว่าถ้าเกิดเขาเป็นอะไรอย่าปิดปังเขา เพราะเขาจะได้เตรียมตัว เขาจะได้รู้ตัว ป้องกันของเขา คือเรื่องนี้เราคุยกันมาก่อนแล้ว เป็นอะไร เราจะไม่ปิดบังกัน เราเลยตัดสินใจตอนออกจากโรงพยาบาล

ค่อยๆ ลูบหลังเขา เขาก็ถามแหละ แม่พ่อเป็นอะไร แม่บอกพ่อมาตรงๆ พ่อรับได้ ก็บอกยายใจเย็นๆ นะ เป็นอะไรก็ได้ เราสู้ไปด้วยกันนะ ไม่ต้องกลัวนะกุ้งอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างยาย บอกว่ายายเป็นมะเร็งปอด
ยายชา : เรื่องเล็ก คนอื่นเขาก็เป็นกัน

คนรอบข้างยายบอกว่าจริงๆ ยายก็กังวล แต่ยายพยายามเข้มแข็งเหมือนยายห่วงทุกๆ คน?
ยายชา : ใช่ ถามว่าเรากังวลเรื่องตรงนี้ไหมชัวร์ เรากังวลเรื่องตรงนี้มากๆ แต่ถามว่าเราจะอยู่ตรงนี้กับพวกเขาได้ยังไง มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเรารู้จัก รู้สึก ที่จะเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลี กับคนที่อยู่ข้างๆ เรา คนนี้ถ้าเขามีความสุขเราก็มีความสุข เราดีใจ เราภูมิใจ
กุ้งนาง : เขาเข้มแข็ง

สิ่งที่ยายกลัวที่สุดคืออะไร?
ยายชา : จะหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ คำว่าที่สุดคืออะไร ที่สุดคือที่สุดที่เราไม่สามารถไปจับมันได้ มันเหนือการควบคุม แต่มันก็เอาเราไปไม่ได้เหมือนกัน เราต้องสู้

ทุกวันนี้ได้เข้ารับการรักษาหรือยัง?
กุ้งนาง : ยังค่ะ รอคุณหมอ

ระหว่างที่รอหมอพี่กุ้งดูแลยายชายังไง?
กุ้งนาง : ดูแลเรื่องการกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ อาหาร ยา เราจะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แล้วจะไม่ให้ใครทำและไม่ฝากใคร ต้องดูแลด้วยตัวเองตลอด

ก่อนที่จะเจอหมอวันที่ 16 ส่วนตัวเรากังวลอะไรที่สุด?
กุ้งนาง : ถามว่าทุกวันนี้กังวลไหม แรกๆ กังวล แต่ ณ วันนี้ ที่ยายมาที่นี่ได้ คือไม่กังวลอะไรแล้ว คือเป็นอะไรก็เป็น เราจะอยู่เคียงข้างเขารักษาเขา มาโรงพยาบาลบ่อยแค่ไหนเราก็จะมา เตรียมพร้อมค่ะ
ยายชา : เขาถามเรา พ่อสู้ไหม สู้

กังวลอะไรไหม?
ยายชา : ไม่กังวล

ตอนนี้ยายชาตัวติดกับพี่กุ้ง ลืมตาขึ้นมาต้องเห็นพี่กุ้ง?
ยายชา : เพราะว่าเดินไกลไม่ได้ เหนื่อย

ตอนไปซื้อกับข้าวเกิดอะไรขึ้น?
กุ้งนาง : บอกว่าไปชั่วโมงเดียว แล้วทีนี้คนมันเยอะรถมันติดจากชั่วโมงนึงก็เป็น 2-3 ชั่วโมง เราไปซื้อกับข้าวนานเขากลัวเราทิ้ง กลัวไม่มีคนดูแล เขาเคยพูดว่า พ่อกลัวแม่ทิ้งไปตอนพ่อป่วย

ทำไมยายคิดแบบนั้น?
ยายชา : มันมีประวัติก็ไม่อยากจะเล่า คือคุณพ่อยายเป็นคนเจ้าชู้
กุ้งนาง : เขาก็กลัวว่า หนุ่มๆ จะมายุ่งกับเราแบบนี้

ทำไมถึงไม่มั่นใจพี่กุ้งหรือจริงๆในอดีตยายเองเจ้าชู้หรือเปล่า?
ยายชา : ไม่หรอก

ถึงแม้ยายจะป่วยเขาไม่ลงโซเชียล ไม่อยากให้คนตื่นตระหนก แต่ตอนหลังพี่กุ้งเป็นคนลงใช่ไหม?
กุ้งนาง : ใช่ ณ ชั่วโมงนั้น เป็นช่วงที่เราค่อนข้างจิตตกอยู่ เราจะทำยังไงดีให้แฟนคลับยายได้รู้ว่าความคืบหน้ายายเป็นยังไง เราก็ไม่ได้ไปขายของที่วัด 2-3 วันแล้ว เดี๋ยวลูกค้าจะหายจะสงสัยว่ายายเป็นอะไร

เราก็หากำลังใจให้ยายด้วยเพราะแกทรงๆ วันสองวันไม่ค่อยจะดี ก็เลยตัดสินใจลงโซเชียล ทุกคนก็ให้กำลังใจยาย คอมเมนต์เป็นร้อย คนดูเป็นแสน ก็มาอ่านให้ยายฟัง ยายใจชื้นขึ้นเยอะเลย ยายมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ
ยายชา : ตั้งแต่วันนั้นก็ลุยมาด้วยกัน มันใจฟู ขอบคุณที่คุณทั้งหลายมาช่วยยายชา

นอกจากแฟนคลับแล้วกำลังใจสำคัญคือพ่อตา ตอนที่เขาป่วยหนักพ่อบอกเขายังไง?
พ่อตา : บอกว่าให้ทำใจดีๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็หายเอง

ยายชาสั่งเสียไว้หมดแล้วเหรอ?
ยายชา : ใช่
กุ้งนาง : ตอนนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังนอนซม แล้วมีนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ใจเรายังตกอยู่

สั่งเสียว่าอะไรบ้าง?
ยายชา : ใจของเรามันหลุดหมดแล้ว เราบอกว่า แม่ถ้าพ่อเป็นอะไร อย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน 2 วันก็เผาเลย
กุ้งนาง : ไม่อยากให้สิ้นเปลืองเยอะ

ยายชา : แต่ถ้าพ่อยังไม่เป็นอะไรมันแค่เริ่มปล่อยเลย รักษาตามอาการต่อไป
กุ้งนาง : ก็เสียใจนะเขายังไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น ทำไมต้องสั่งเสียขนาดนี้ ทำให้เราจิตตกลง เลยให้กำลังใจเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก เราก็ยังไม่รู้ว่าระยะไหน

หมอเขาก็ต้องวินิจฉัยก่อน อาจจะเป็น 1,2,3 หรือ 4 เขาก็ยังรักษาได้ มียาดีหมอเขาเก่ง ก็ให้กำลังใจกันอย่างนี้ ไม่เป็นอะไรหรอก เราจะอยู่เป็นมิ่งขวัญ เป็นคู่ขวัญกันอย่างนี้แหละ

ตอบกับยายแบบนี้ แต่เวลาอยู่คนเดียวเห็นว่าแอบร้องไห้?
กุ้งนาง : เราอ่อนแอไม่ได้ เพราะเรามีคนที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ถ้าเราอ่อนแอคนหนึ่งแล้วใครล่ะ เราอยู่กันแค่สองคน มีกันแค่สองคน ถ้าเขาอ่อนแอ เราก็ต้องเข้มแข็ง

ถ้าเราทรุดลง แล้วเขาจะเป็นยังไง เขาต้องการกำลังใจ เราก็ต้องการกำลังใจ กำลังใจเราคือคนรอบข้างที่คอยซัพพอร์ตช่วยเราอยู่ตลอด เราเอากำลังใจตรงนี้มาเติมให้เขา ครอบครัวสำคัญค่ะ

พี่กุ้งเขาทำใจไว้แล้ว?
กุ้งนาง : ก็ทำใจไว้ส่วนนึง ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ เราก็เตรียมไว้อยู่แล้ว แต่ระหว่างที่อยู่ เราจะต้องดูแลประคับประคองเขาให้ดีที่สุด

ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้ อาการของยายถ้าเกิดมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงๆ คุณกุ้งเตรียมทำบางสิ่งบางอย่างเอาไว้?
กุ้งนาง : ถ้ามีปาฏิหาริย์ เราสวดมนต์ขอพร ไหว้พระ ถ้าเป็นไปได้ เราขอปาฏิหาริย์ ถ้าแกหายป่วย หรือมะเร็งสงบ เราเตรียมตัวบวชชีสัก 19 วัน บวชให้เขา สัญญาถ้าปาฏิหาริย์มีจริง

ยายชา : แต่ถ้าปาฏิหาริย์ในโลกนี้มีจริง ยายหายปกติโดยที่ไม่ต้องไปกินยาเพื่อให้ตัวเองหาย ถ้ามีโอกาสก็จะบวชเหมือนกัน บวชพระ

ยายเป็นห่วงอะไรคุณกุ้งที่สุด?
ยายชา : หลายๆ เรื่องที่เราไม่สามารถตอบได้
กุ้งนาง : เขาห่วงหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การกิน การอยู่ การนอน เขาเป็นเหมือนพ่อ แม่ พี่น้อง อยู่ในคนคนเดียว คิดว่าถ้าเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้ว

ชีวิตเราก็ดำเนินต่อไปได้นะ เขาปูทางไว้ให้เราหมดแล้ว ร้านค้าเขาก็มีให้เรา เราต้องสานต่อเขาให้ได้ แต่ระหว่างที่อยู่เราไม่อยากสานต่อคนเดียว เราจะสานไปด้วยกัน

เคยคุยกันเล่นๆ ว่าถ้าชาติหน้าเกิดมาอยากให้เกลียดอะไรสักอย่าง?
กุ้งนาง : เราคุยกันเล่นๆ ให้กำลังใจกันนี่แหละ ยายเกิดชาติหน้าฉันใดยายเกลียดบุหรี่ไปเลยนะ ยายเกลียดเหล้าไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้อีก

หนิงถ้าชาติหน้าเลือกเกลียดได้จะเกลียดอะไร ?
หนิง : เกลียดผู้ชายเจ้าชู้

หมอบอกไหมว่าสาเหตุของโรคมันมาจากไหน?
กุ้งนาง : ดูดบุหรี่หนัก เมื่อก่อนดูดบุหรี่มวนต่อมวน เขาดูดบุหรี่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะสูบบุหรี่ไหม?
ยายชา : ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ยายชาไม่อยากให้คนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำมันเป็นผลพวง ให้กับตัวเองให้เกิดความลำบากลำบน ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ยายชาขอนะอย่าทำ

ทำไมถึงเลิกมา 3 เดือนแล้ว?
กุ้งนาง : เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตัวเขาเองแล้วตัวพี่ด้วย เขาบอกว่าเนี่ยมีของขวัญมาให้นะ พี่จะเลิกบุหรี่ให้ แล้วเขาก็ตัดสินใจหักดิบ ณ วันที่เขาเลิก บุหรี่ซองสุดท้ายเหลือ 4 มวน เขาก็เก็บไว้แบบนั้นพร้อมไฟแช็กไม่ได้ดูดเลย

ดูดมา 63 ปี หับดิบวันเดียว?
ยายชา : ก็ไม่ดูดสักอย่าง มึงไม่ใช่ญาติกุ กูไม่ดูดสักอย่าง มึงทำอะไรกูไม่ได้อยู่แล้ว

ที่เราเป็นมะเร็งปอดหลักๆเลยคือบุหรี่?
ยายชา : ใช่
มีเพื่อนในวงการส่งคลิปมาให้กำลังใจ?
เท่ง เถิดเทิง : พอรู้ข่าวยายชาหมอว่าเป็นมะเร็ง ฝากถึงเพื่อนไม่มีอะไร มันก็แค่มะเร็ง คิดบวกไว้ก่อน ถ้าคิดว่ามันร้าย เดี๋ยวจิตจะตก ที่พูดแบบนี้ก็อยากให้กำลังใจ มีหลายคนที่พอกำลังใจมาแล้วสู้มันหาย แต่ยาที่สำคัญคือกำลังใจ ขอให้เพื่อนมีกำลังใจ เท่ง เถิดเทิง เป็นกำลังใจให้ สู้กับมัน ต้องชนะมัน ทำให้ได้
ยายชา : ขอบใจๆ

ทำงานด้วยกันที่ระเบิดเถิดเทิงนานแค่ไหน?
ยายชา : 18 ปี

พี่เท่งน่ารักยังไงในฐานะเพื่อนร่วมงาน?
ยายชา : เขาน่ารักหลายเรื่อง เขานิสัยดี มารยาทดี

ไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้ว?
ยายชา : สิบกว่าปี

อยากบอกอะไรพี่เท่ง?
ยายชา : เท่งกูรักมึงนะ แต่เป็นไปได้กูอยากให้มึงมาหากู